วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2555

อ้างอิงจาก





http://elib.fda.moph.go.th/library/default.asp?page2=subdetail&id_L1=27&id_L2=31218&id_L3=3003

http://www.jeban.com/viewtopic.php?t=83545

http://hilight.kapook.com/view/31438

www.glutathione.in.th



คุณหมอออกมาเตือนผลของการใช้กลูต้าไธโอน


กลูต้าไธโอนช่วยทำให้ขาว สารกลูต้าไธโอนเป็นสารที่เซลล์ในร่างกายเราสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เอง มึคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง มีหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อของอวัยวะทุกส่วน ช่วยในการกำจัดสารพิษที่ไม่ละลายน้ำในร่างกาย และช่วยป้องกันความเป็นพิษต่อตับในผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์
ในหมู่คนรักสวยรักงาม เป็นที่ทราบกันแบบอวดอ้างกล่าวขานกันต่อๆ มาว่า "กลูต้าไธโอน(glutathione)"  เป็นสารที่ทำให้ผิวขาวผ่องเป็นที่นิยมกันมาก  แม้คุณหมอจะออกมาเตือนว่าผลของการใช้สารกลูต้าไธโอน มันไม่เป็นอย่างนั้น ถึงขั้นที่ อย.และแพทย์สภาออกกฎข้อบังคับห้ามแพทย์นำ กลูต้าไธโอน มาฉีด เพราะเป็นการหลอกลวงผู้บริโภค แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยมีใครอยากฟัง กลูต้าไธโอนกลับยิ่งแพร่ระบาดมากขึ้น 

                นายแพทย์ชลทิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย กล่าวให้ข้อคิดกับสาวที่อยากสวยด้วย กลูต้าไธโอน ว่า ขอให้ยึดหลักสำคัญว่าการฉีดสาร กลูต้าไธโอน หรือสิ่งต่างๆ เข้าร่างกายนั้นมีหลักสำคัญข้อเดียวคือ นำเข้าสู่ร่างกายก็ต้องสามารถเอาออกได้ ถ้าเอาเข้าแล้วเอาออกไม่ได้ หรือไม่สลายตัวไปเองถือว่าไม่ปลอดภัยทั้งสิ้น เพราะเป็นสิ่งแปลกปลอม 

             ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในเรื่อง "กลูต้าไธโอน (glutathione)" นั้น นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย บอกว่า เท่าที่ทราบมีการขาย กลูต้าไธโอน เกลื่อนตามเว็บไซต์ ราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงเป็นหมื่นบาท ที่น่ากลัวคือมีการแนะนำวิธีฉีด กลูต้าไธโอน และอวดอ้างสรรพคุณจนทำให้คนที่อยากขาวเกิดความสนใจ และซื้อหาสารกลูต้าไธโอน ไปทดลองทั้งฉีดและกินเพื่อให้ตัวขาว ก็ขอแจ้งให้ทราบว่าไม่เป็นความจริง 

             นายแพทย์ชลทิศกล่าวว่า ความจริงแล้วปกติร่างกายจะสร้าง กลูต้าไธโอนได้เอง จากสารอาหารธรรมชาติที่รับประทานเข้าไป เช่น เนื้อสัตว์ ผักสีเขียว รวมทั้งสมุนไพรอย่างอบเชย เป็นต้น เนื่องจากมันมีหน้าที่ต้านอนุมูลอิสระ หรือสารพิษต่างๆจากร่างกาย นอกจากนี้ยังป้องกันความเสื่อมและเพิ่มภูมิต้านทานในร่างกายอีกด้วย 

             ถึงแม้การฉีดกลูต้าไธโอน จะไม่ส่งผลอันตรายโดยตรงกับร่างกาย แต่การใช้เข็มฉีดเข้าตัวเองกันอย่างแพร่หลาย โดยไม่ระมัดระวังและคำนึงถึงสุขอนามัยแล้ว อาจทำให้เกิดการติดเชื้อและปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกนับไม่ถ้วน นั่นก็เป็นคำกล่าวเตือนจากคุณหมอในแวดวงความสวยงามโดยตรง รู้แล้วก็อย่าปล่อยให้โดนหลอกขายสารกลูต้าไธโอนต่อไปโดยไม่จำเป็น

สารที่ทำให้ขาดกลูต้าไธโอน


สารที่ทำให้ขาดกลูต้าไธโอน


การสูบบุหรี่

ดื่มแอลกอฮอล์

คาเฟอีน

ยาพาราเซตามอล

ยา

ออกกำลังกายหนัก

รังสี X Y และยูวี

• Xenobiotics

• Estradiol

ลักษณะของกลูต้าไธโอน


ลักษณะของกลูต้าไธโอน

กลูต้าไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระภายในเซลล์พบมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซลล์ตับ (จนถึง 5 mM)

กลูต้าไธโอนถูกสังเคราะห์โดย Glutathione synthase โดยการใช้กรดอะมิโน 3 ชนิด : L-cysteine, L-glutamate และ glycine


ตามธรรมชาติมี 2 รูปแบบ ได้แก่ reduced Glutathione (GSH) และ oxidized Glutathione disulphide (GSSG)


อำนวยความสะดวกต่อการทำงานของภูมิคุ้มกัน


เป็นสาร mitochondrial antioxidant


เป็นสาร co-factor/ เอนไซม์ใน phase I enzymatic detoxification pathway


• Phase II detoxification pathway


การป้องกันระบบประสาท



การลดลงของกลูต้าไธโอน

แสดงให้เห็นเด่นชัดอย่างเฉียบพลันในการขาดกลูต้าไธโอนเมื่อรับประทานยาพาราเซตามอลเกินขนาด

ผลของการลดลงของกลูต้าไธโอนนี้เกิดใน hepatocyte ชักนำให้ตับวายและเสียชีวิตได้


การขาดกลูต้าไธโอนเรื้อรังมีความสัมพันธ์กับความผิดปกติทางภูมิคุ้มกัน เพิ่มการเกิดเนื้อร้าย และในกรณีโรคเอดส์ อาจเร่งให้เกิดโรคขึ้นมาได้


การขาดกลูต้าไธโอนเป็นผลใน tissue oxidative stress สามารถเกิดโรคได้ ยกตัวอย่างเช่น ผู้ที่เป็น G6PD (glucose 6-phosphate dehydrogenase deficiency) ทำให้เกิดปริมาณ NADPH และ reduced Glutathione ลดลง


• Oxidative stress เป็นสาเหตุให้ขาดกลูต้าไธโอนใน fragile erythrocyte membranes
ข้อบ่งใช้และการใช้ประโยชน์


รักษาพิษจากยาพาราเซตามอล


ใช้เบื้องต้นสำหรับ : มะเร็งบางชนิด โรคไขมันอุดตันที่ผนังหลอดเลือด (atherosclerosis) โรคเบาหวาน ปอดมีความผิดปกติโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคปอดอุดกั้น สูญเสียการได้ยินเนื่องมาจากเสียง ผู้ชายที่เป็นหมัน ป้องกันหรือทำให้พิษดีขึ้น ต้านเชื้อไวรัส ยากำพร้าในการรักษาเอดส์ที่สัมพันธ์กับภาวะขาดสารอาหาร



ประโยชน์ของกลูต้าไธโอน



ประโยชน์ของกลูต้าไธโอน
คุณสมบัติและฤทธิ์ต่างๆของGlutathione คือเป็นสาร anti-oxidantซึ่งยับยั้งอนุมูลอิสระที่เป็นต้นตอของความแก่ ความผิดปกติของเซลล์ที่อาจนำไปสู่การเกิดมะเร็งได้ ส่วนเรื่องฉีดเข้าไปแล้วทำให้ผิวขาวนั้น glutathione จะไปยับยั้ง DOPA-tyrosinase  (ซึ่งเป็นenzyme ที่เปลี่ยน dihydroxyphenylalanine ไปเป็น dopaquinone ซึ่ง dopaquinone จะเปลี่ยนต่อไป จนในที่สุดจะเกิดการกระตุ้นการสร้างเม็ดสีผิวหรือ melanin ชนิดน้าตาล-ดำขึ้น) เมื่อยับยั้งแล้วก็จะทำให้เม็ดสีผิวผลิตน้อยลง   ผิวจึงค่อยๆ ขาวขึ้นคนไทย ซึ่งความนิยมฉีด glutathione ของคนไทยนั้น ไม่ได้เป็นข้อบ่งใช้โดยตรงของสารนี้ซึ่งหน้าที่โดยตรงคือยับยั้งอนุมูลอิสระ แต่เป็นการฉีดเพื่อหวังผลทางอ้อม คือทำให้ผิวขาวใสขึ้นเท่านั้น แต่มันไม่ได้เป็นสารพิษที่ร่างกายรับไม่ได้ ในทางตรงกันข้าม กลับทำให้ร่างกายเราแข็งแรงขึ้น อธิบายง่ายๆก็คือ glutathione เปรียบเสมือนแม่บ้านนั่นเอง คอยทำความสะอาดร่างกาย ให้ร่างกายขาวสะอาด  อาจารย์แพทย์ที่เรารู้จักและค่อนข้างสนิท ยังแนะนำให้เราฉีด และตัวอาจารย์เองก็ฉีดด้วย เพราะฉะนั้นการฉีด glutathione จึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย เราแนะนำให้ฉีดควบคู่กับวิตามินซี จะทำให้เห็นผลเร็วขึ้น เพราะวิตามินซีนั้น จะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาของ glutathione และยังทำให้หลอดเลือดฝอยแข็งแรงอีกด้วย  แต่ผลข้างเคียงของการฉีดวิตามินซีคือ อาจมีอาการมึนหัวได้ เพราะวิตามินซีทำให้หลอดเลือดหดตัวเล็กน้อย ทำให้ความดันเราสูงขึ้นเล็กน้อย อธิบายง่ายๆก็คือ เปรียบเทียบสายยางฉีดน้ำเป็นหลอดเลือด แล้วเราบีบปลายสายยางเล็กน้อย  จะเห็นได้ว่าน้ำที่ออกมาจากสายยางมีความแรงขึ้น การที่ร่างกายเรามีความดันหลอดเลือดเปลี่ยนแปลงกะทันหันอาจมีอาการมึนหัวเล็กน้อย ไม่มากหรอกค่ะ แต่ในบางคนที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และดื่มน้ำเยอะๆ แทบไม่มีผลกระทบอะไรเลย เพราะร่างกายแข็งแรงปรับสภาพได้อยู่แล้ว ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ก็อยากให้เพื่อนๆอ่านโดยใช้วิจารณญาณ เราเองก็เป็นบุคลากรทางการแพทย์  แล้วก็เป็นผู้หญิง ซึ่งเป็นธรรมดาซึ่งจะต้องรักสวยรักงาม อยากให้ตัวเองดูดี และมีบุคลิกที่ดีเพราะอาชีพเราต้องพบปะเจอคนเยอะแยะมากมาย เพราะถ้าเราบุคลิกไม่ดี ร่างกายไม่แข็งแรง เวลาแนะนำอะไรคนไข้ไปก็คงไม่เชื่อ เพราะตัวเองยังทำไม่ได้เลยอะไรแบบนี้ แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น การฉีด glutathione ต้องเป็นของแท้เท่านั้น ถ้าไม่ใช่เพื่อนๆฉีดไปก็ขาวจิงอยู่ แต่ระวังซักวัน หลอดเลือดคุณจะตีบโดยไม่รู้ตัว  หลอกเลือดตีบ ต่อมาก็หัวใจวาย อันตรายนะคะ ถามว่าจะพิสูจน์อย่างไรจึงจะรู้ว่าของแท้รึป่าว เราต้องเอาไปตรวจแลปเท่านั้น ถ้าจะเอามาหยดกะเบตาดีนแล้วเปลี่ยนเป็นสีใสนั้นใช้ไม่ได้ เพราะ ผงชูรส หรือ วิตามินซีธรรมดาก็สารมารถเปลี่ยนสีได้เช่นกัน  จะเอามาชิม ก็ไม่สามารถบอกได้เช่นกัน มีทางเดียวคือคุณต้องซื้อจากคนที่คุณไว้ใจได้เท่านั้น ว่าเค้ารับของมาจากแหล่งผลิตจริงๆ  อย่างเราก็มีเพื่อนเป็นนักบิน ก็สามารถฝากเพื่อนซื้อมาให้ได้ แต่ไม่เยอะมาก เพราะว่าเอามาเยอะก็โดนตรวจเพื่อนจะเดือดร้อน   แล้วประเด็นที่ว่า ฉีดกี่เข็มขาว  กี่วันจะขาว   แล้วฉีดถี่แค่ไหน ไม่มีใครสามารถตอบได้นอกจากตัวคุณเอง  คุณต้องสังเกตตัวคุณเองค่ะ ว่าสามารถรับได้แค่ไหน เพราะคนเราไม่เหมือนกัน ความขาวของผิวขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย  ถ้าให้อธิบายคงยาวมาก พิมพ์หลายหน้า  ถ้ามีใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็โทรมาสอบถามได้ที่ 081-6181980  เรายินดีตอบคำถามให้ เพราะเราก็เป็นคนหนึ่งที่มีผิวคล้ำ  แล้วก็ศึกษา แล้วมีประสบการณ์โดยตรง เรายินดีให้คำปรึกษากับเพื่อนๆค่ะ แต่เราไม่ได้เปิดคลินิก หรือขายนะคะ  แต่เราให้คำแนะนำว่าต้องทำตัวอย่างไร ต้องซื้อที่ไหนถึงจะได้ของแท้เท่านั้น
รูป ฉีดกลูตาไธโอน   
กลูต้าไธโอน เป็นพันธะเปปไทด์ของกรดอะมิโน 3 ตัว ได้แก่ ซีสเตอีน กลูตาเมต และไกลซีน กลูต้าไธโอนอยู่ในรูป reduced (GSH) และ oxidized (GSSG) โดย GSSG ถูก reduced ด้วย Glutathione reductase สาร ascorbic acid จะเพิ่มการออกฤทธิ์ของ GSH ซึ่ง alpha lipoic acid (ALA) เพิ่มการออกฤทธิ์ของกลูต้าไธโอนอาจกลับมาเป็น GSSG

แอล-กลู ต้าไธโอน กับ กลูต้าไธโอน เหมือนกันไหม?


แอล-กลู ต้าไธโอน กับ กลูต้าไธโอน เหมือนกันไหม?  

ตัวไหนทำให้ขาวกว่ากัน?  

แอล-กลู ต้าไธโอนเป็นสารออกฤทธิ์ของกลูต้าไธโอน ดังนั้นจึงมีประสิทธิภาพมากกว่า แต่ก็เป็นสรรพคุณเหมือนกัน การเลือกรับประทานแอล-กลูต้าไธโอนที่เป็นของ จริงและน่าเชื่อถือได้ ควรเลือกทานที่มี อ.ย.และวันหมดอายุ โดยอาหารเสริมประเภทนี้นั้นไม่มีผลเสียต่อร่างกายแม้จะรับประทานติดต่อกัน เป็นระยะเวลานาน


     

สิ่งที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับ Glutathione (กลูต้าไธโอน)

  • ทราบหรือไม่กลูต้าไธโอนยังมีส่วนช่วยในการแก้อาการเมาค้างได้อีกด้วย
  • ทานแคปซูลมากไปอุจจาระเหนียวอีกไม่เชื่อคุณลองเอาแคปซูลซักประมาณที่คุณจะ รับประทานต่อวันมาละลายน้ำดูสิ
สารกลูต้าไธโอน เป็นสารที่เซลล์ในร่างกายเราสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เอง มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง มีหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อของอวัยวะทุกส่วนโดยการต่อต้านอนุมูลอิสระที่ สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย 

ที่สำคัญยังช่วยตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย เช่น ตัวยาหรือสารพิษที่ไม่ละลายน้ำ เมื่อรวมตัวกับสารกลูต้าไธโอน จะช่วยให้ละลายน้ำได้และถูกกำจัดออกจากร่างกายได้ในที่สุด สารพิษจำพวกโลหะหนักหรือสารกำจัดแมลง สามารถถูกขจัดออกจากร่างกายได้โดยการทำงานของกลูตาไธโอนร่วมกับตับ
                สารกลูต้าไธโอนยังมีหน้าที่สำคัญอีกมากมายในร่างกาย เช่น สังเคราะห์โปรตีน ช่วยให้เม็ดเลือดแดงมีความแข็งแรง ช่วยเร่งการซึมผ่านของสารอาหารเข้าสู่เซลล์ ช่วยปกป้องดีเอ็นเอของเซลล์ไม่ให้ถูกทำลาย ซึ่งเป็นการป้องกันการเกิดมะเร็งนั่นเอง โดยสรุปสารกลูตาไธโอน จึงเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายที่มีกำลังสูงเมื่อเปรียบเทียบกับ วิตามินซีหรือวิตามินอี เมื่ออายุคนเรามากขึ้นปริมาณกลูต้าไธโอนในร่างกายจะลดน้อยลง มีผลทำให้เซลล์และอวัยวะทุกส่วนเสื่อมโทรมลง 

ในทางตรงกันข้าม นักวิจัยพบว่าผู้ที่มีอายุยืนยาวและมีสุขภาพแข็งแรง มักจะตรวจพบสารกลูต้าไธโอนปริมาณสูงในกระแสเลือด 

                การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์
 สารกลูต้าไธโอนมีการนำมาใช้เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบเส้นประสาทบกพร่อง เช่น โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์หรือโรคสมองเสื่อม โรคปลายเส้นประสาทอักเสบ มะเร็งกระเพาะ และมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยได้รับการรับรองให้ใช้เป็นยามามากกว่า 30 ปี 


การรักษามักจะให้ โดยการฉีดเข้าเส้นหรือเข้าที่กล้ามเนื้อ อาการข้างเคียงของยาดังกล่าวตอนนี้ยังไม่พบ แต่อย่างไรก็ตามพบว่า สารกลูตาไธโอนมีผลข้างเคียงในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งทำให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขา

ผลข้างเคียงนี้จึงทำให้มีการแตกตื่นและนำกลูต้าไธโอนมาเตรียมเป็นยาเม็ดเพื่อ ใช้เป็นอาหารเสริม เพื่อชะลอวัย และหวังผลให้ผิวขาวใสหรือผิวขาวอมชมพู 

ชนิดและขนาดรับประทาน Glutathione (กลูต้าไธโอน)


ชนิดและขนาดรับประทาน Glutathione (กลูต้าไธโอน) 

Miracle White 3800mg. กลูต้าเม็ดสีเทา ผิวนุ่มเนียน อมชมพู  Crazy White กลูต้า เคซี่ไวท์

ปัจจุบันกลูต้าไธโอนมีวางจำหน่ายในหลายรูปแบบ เช่น ชนิดเม็ดหรือแคปซูล ชนิดพ่น ชนิดฉีดเข้าเส้นและฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ผู้ป่วยโรคชนิดต่างๆ ที่ตรวจพบว่ามีการขาดสารนี้ควรใช้ตามแพทย์แนะนำ ในแง่ของการป้องกัน หรือเพื่อต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น ขนาดที่รับประทานคือ 500-1000 มก. ต่อวัน ถึงทุกวันนี้ยังไม่พบผลข้างเคียงหรือปฏิกิริยาระหว่างยา ของ

 Royal Stem Cell กลูต้ารอยัลสเต็มเซลล์  Gluta perfect pink white radiant กลูต้าพิ้งเพอร์ไวท์  

กลูต้าไธโอนชนิดรับประทานและไม่มีผลต่อการเพิ่มน้ำหนัก แต่หากไม่ป้องกันและหลบเลี่ยงสงแดดสีผิวก็จะกลับมาเหมือนเดิม

แหล่งธรรมชาติที่พบสารกลูต้าไธโอน


กลูต้าไธโอนในธรรมชาติ พบมากในผลไม้  ได้แก่ แตงโม สตรอเบอรี่ องุ่น ผลอโวกาโด ส่วนในผักพบมากใน หน่อไม้ฝรั่ง สำหรับเนื้อสัตว์จะพบได้ใน ปลา และเนื้อแดง เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว จะพบมากใน Asparagus อะโวกาโด และ Walnut ร่างกายเราก็สามารถสร้างกลูต้าไธโอนได้และมีสารหลายชนิดที่ช่วยเพิ่มการ สร้างได้แก่ Alpha lipoic acid, Glutamine3, Methionine, Whey Protein, Vitamin B-6, Vitamin B-2 , Vitamin C4 และ Selenium 


L-Glutathione  เป็น Amino Acid ที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เองในร่างกาย แต่มีปริมาณน้อยอาจไม่เพียงพอในการนำไปสร้างเป็น Enzyme Glutathione Peroxidase ซึ่งเป็นสาร Antioxidants ป้องกันการเกิดของ Free Radicals และป้องกันการเสื่อมของเซลล์ต่างๆในร่างกายโดยเฉพาะเซลล์ตับ นอกจากนี้ยังมีส่วนสำคัญในการขับล้างสารพิษในกระแสเลือดให้กลายเป็นสารที่ ไม่อันตรายและขับออกจากร่างกายทางตับ (Detoxifocation) อย่างไรก็ตามเราสามารถเพิ่มระดับของกลูต้าไธโอน ในร่างกายได้ง่ายๆ โดยการรับประทาน L-Glutathione เข้าไปโดยตรง หรือ รับประทานสารอาหารที่ร่างกายนำไปใช้ในการสร้าง กลูต้าไธโอน เช่น Alpha Lipoic Acid และ N-Acetylcysteine ให้มากขึ้น หรือ การรับประทาน antioxidants อื่น เช่น Vitamin C เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเก็บ กลูต้าไธโอน ที่ตับให้มากขึ้น


แหล่งที่พบ : พบสารชนิดนี้ได้ในพืชผักชนิดต่างๆ ผลไม้ทั่วไปและเนื้อสัตว์ แต่จะพบมากใน Asparagus อะโวกาโด และ Walnut ร่างกายเราก็สามารถสร้างกลูต้าไธโอนได้และมีสารหลายชนิดที่ช่วยเพิ่มการสร้าง ได้แก่ Alpha lipoic acid, Glutamine3, Methionine, Whey Protein, Vitamin B-6, Vitamin B-2 , Vitamin C4 และ Selenium

กลูต้าไธโอนช่วยให้ผิวขาวได้จริงหรือ?


กลูต้าไธโอนช่วยให้ผิวขาวได้จริงหรือ?  

ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น อาการข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ของการใช้ยากลูต้าไธโอนคือ การยับยั้งการสร้างเซลล์เม็ดสีให้ผิวหนัง 

รวมทั้งการเปลี่ยนเม็ดสีที่สร้างขึ้นจากสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว จึงมีการคิดนำเอาสารชนิดนี้มาใช้เป็นอาหารเสริมโดยหวังว่า จะสามารถเสริมและเพิ่มความเข้มข้นของกลูต้าไธโอนในกระแสเลือดให้มากๆ เพื่อหวังผลให้ผิวหน้าขาวอมชมพู แต่ในความเป็นจริงยาเม็ดที่เป็นอาหารเสริมนั้น ทานมากเท่าไหร่ก็จะไม่ได้ผล เพราะสารชนิดนี้จะถูกย่อยสลายและกำจัดออกจากร่างกาย ไม่ถูกดูดซึม แพทย์หลายสำนักจึงได้มีการดัดแปลงโดยทำการฉีดเข้าเส้นหรือเข้ากล้ามเนื้อ เช่นเดียวกับการรักษาโรคต่างๆ อย่างไรก็ตามอาการข้างเคียงของผิวขาวเป็นอาการชั่วคราวเท่านั้น จึงไม่ควรใช้ยานี้ในทางที่ผิด

ภาวะที่ร่างกายขาดกลูต้าไธโอน  เนื่องจากสารดังกล่าวร่างกายสร้างได้เอง แต่สภาวะที่ร่างกายอาจขาดหรือมีกลูต้าไธโอนไม่เพียงพอ 

เช่น เมื่อร่างกายมีโรคแทรกซ้อน ทำให้กลูต้าไธโอนลดน้อยลงด้วยสาเหตุการถูกทำลายด้วยยารักษาหรือด้วยตัวโรค เอง หากร่างกายขาดหรือมีกลูต้าไธโอนน้อย จะมีผลทำให้เกิดโรคตับอักเสบง่าย ทำให้ตับทำงานได้ไม่เต็มที่ มีโอกาสในการเกิดภาวะแทรกซ้อนของระบบทางเดินหายใจ โรคหืด ผู้ที่มีกรรมพันธุ์เกี่ยวกับความบกพร่องของกลูต้าไธโอนมักจะมีปัญหาโรคแทรก ซ้อนทางระบบประสาท ผู้ที่ป่วยด้วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือโรคเอดส์ ปริมาณกลูต้าไธโอนในระบบเลือดจะต่ำมากๆ ผู้ที่สูบบุหรี่จัดก็เช่นกัน ดังนั้นบุคคลเหล่านี้จะเกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่าย 

การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์จากสารกลูต้าไธโอน...


การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์จากสารกลูต้าไธโอน 

สารกลูต้าไธโอนมีการนำมาใช้เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบเส้นประสาทบกพร่อง เช่น โรคพาร์กินสัน โรคอัลไซเมอร์หรือโรคสมองเสื่อม โรคปลายเส้นประสาทอักเสบ มะเร็งกระเพาะ และมะเร็งต่อมลูกหมาก โดยได้รับการรับรองให้ใช้เป็นยามามากกว่า 30 ปี การรักษามักจะให้ โดยการฉีดเข้าเส้นหรือเข้าที่กล้ามเนื้อ อาการข้างเคียงของยาดังกล่าวตอนนี้ยังไม่พบ แต่อย่างไรก็ตามพบว่า สารกลูตาไธโอนมีผลข้างเคียงในการยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส ซึ่งทำให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว ผลข้างเคียงนี้จึงทำให้มีการแตกตื่นและนำกลูต้าไธโอนมาเตรียมเป็นยาเม็ด เพื่อใช้เป็นอาหารเสริม เพื่อชะลอวัย และหวังผลให้ผิวขาวใสหรือผิวขาวอมชมพู




ยาเม็ดกลูต้าไธโอน ได้ผลจริงหรือ?  ในวงการของอาหารเสริม มีการนำสารกลูต้าไธโอนมาทำเป็นยาเม็ดในขนาดความแรงต่างๆ กัน เพื่อใช้ในการรับประทานเป็นอาหารเสริม โดยหวังผลว่า จะสามารถเสริมและทดแทนปริมาณกลูต้าไธโอนที่ร่างกายมีไม่พอหรือบกพร่องไป อันเนื่องมาจากสาเหตุของโรคต่างๆ 


          จากการรวบรวมข้อมูลพบว่า สารกลูต้าไธโอนจะไม่สามารถถูกดูดซึมจากกระเพาะอาหารได้ เพราะจะถูกย่อยสลายและขับออกทางลำไส้ ดังนั้นการรับประทานยาเม็ดกลูต้าไธโอนจึงไม่ได้รับประโยชน์เลย ไม่ว่าจะกินครั้งละหลายๆ เม็ดหรือในขนาดที่สูงมากๆ ก็ตาม 

กลูต้าไธโอน(Glutathione) คืออะไร?

กลูต้าไธโอน(Glutathione) คืออะไร?



กลูต้าไธโอน(Glutathione) คืออะไร?  สารกลูต้าไธโอน เป็นสารที่เซลล์ในร่างกายเราสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้เอง มีคุณสมบัติเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง มีหน้าที่ปกป้องเนื้อเยื่อของอวัยวะทุกส่วนโดยการต่อต้านอนุมูลอิสระที่ สะสมอยู่ตามส่วนต่างๆ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย 

ที่สำคัญยังช่วยตับในการทำลายและขจัดสารพิษออกจากร่างกาย เช่น ตัวยาหรือสารพิษที่ไม่ละลายน้ำ เมื่อรวมตัวกับสารกลูต้าไธโอน จะช่วยให้ละลายน้ำได้และถูกกำจัดออกจากร่างกายได้ในที่สุด สารพิษจำพวกโลหะหนักหรือสารกำจัดแมลง สามารถถูกขจัดออกจากร่างกายได้โดยการทำงานของกลูต้าไธโอนร่วมกับตับ 

          สารกลูต้าไธโอนยังมีหน้าที่สำคัญอีกมากมายในร่างกาย เช่น สังเคราะห์โปรตีน ช่วยให้เม็ดเลือดแดงมีความแข็งแรง ช่วยเร่งการซึมผ่านของสารอาหารเข้าสู่เซลล์ ช่วยปกป้องดีเอ็นเอของเซลล์ไม่ให้ถูกทำลาย ซึ่งเป็นการป้องกันการเกิดมะเร็งนั่นเอง 

Glutathione (กลูต้าไธโอน) เป็นสารประเภท Tripeptide ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิด ได้แก่ Cysteine, Glycine และ Glutamic acid หน้าที่หลักของสารตัวนี่ที่เด่นมีอยู่ 3 ประการ คือ


1. Detoxification : กลูต้าไธโอนช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกายโดยเฉพาะ Glutathion-S-transferase ที่ช่วยในการกำจัดพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ (ละลายในน้ำมัน) เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้นและง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตับ1 จากการถูกทำลายโดย แอลกอฮอล์ (สุรา) สารพิษจากบุหรี่ ยาพาราเซตามอลเกินขนาด (Overdose) ฯลฯ

2. Antioxidant : กลูตาไทโอนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น (Antioxidant) ที่มีความสำคัญตัวหนึ่งในร่างกาย และหากขาดไป วิตามินซีและอี อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่

3. Immune Enhancer : ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย2 โดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอม รวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้กลูตาไทโอน ยังช่วยสร้างและซ่อมแซมDNA สร้างโปรตีนและ protaglandin 


          โดยสรุปสารกลูต้าไธโอน จึงเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายที่มีกำลังสูงเมื่อเปรียบเทียบกับ วิตามินซีหรือวิตามินอี เมื่ออายุคนเรามากขึ้นปริมาณกลูต้าไธโอนในร่างกายจะลดน้อยลง มีผลทำให้เซลล์และอวัยวะทุกส่วนเสื่อมโทรมลง 

ในทางตรงกันข้าม นักวิจัยพบว่าผู้ที่มีอายุยืนยาวและมีสุขภาพแข็งแรง มักจะตรวจพบสารกลูตาไธโอนปริมาณสูงในกระแสเลือด 

ปัญหาของกลูตาไธโอน

ปัญหาของกลูตาไธโอน


1. ผลข้างเคียงที่น่ากลัว คือการฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำ มีโอกาสที่จะแพ้ได้ ทั้งการแพ้สารกลูต้าไธโอน เอง หรืออาจจะแพ้ สารฆ่าเชื้อ หรือ สารกันเสีย หรือ สารปนเปื้อน ขณะนี้มีรายงานในต่างประเทศว่าผู้ ที่ได้รับการฉีดกลูต้าไธโอนขนาดสูงที่ใช้กันอยู่มีอาการช็อค ความดันต่ำ หายใจไม่ออก และเสียชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

2. สารกลูต้าไธโอน ที่ใช้อยู่เป็นการลักลอบนำเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ไม่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สารนี้ที่ใช้ในการแพทย์ มีชื่อว่า Tationil ซึ่งผลิตโดยบริษัท Roche ประเทศอิตาลี แต่บริษัท Roche ประเทศไทย ได้ยืนยันมาว่าบริษัทไม่ได้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย และยังพบว่ามียาปลอมมีที่ผลิตที่เวียดนามและจีน โดยที่พิมพ์ว่าผลิตในอิตาลี ทำให้เกิดผลข้างเคียงในการฉีดได้

3. การที่ฉีดมักจะให้วิตามินซีในขนาดสูงร่วมด้วย ซึ่งการฉีดวิตามินซี ในขนาดที่สูงและเร็วเกินไปอาจทำให้เกิดอาการมึนศีรษะ คล้ายจะเป็นลมได้

4. พบว่าการที่ได้รับสารกลูต้าไธโอนเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้เม็ดสีที่จอตาลดลง ทำให้รับแสงได้น้อยลง เสี่ยงต่อการมองเห็นได้ในอนาคต ทางวารสารทางการแพทย์สหรัฐอเมริกาจัดว่าเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง ทางตา

5. การใช้สารกลูต้าไธโอนในผู้ป่วยมะเร็งทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดลดลง

6. การได้รับสารกลูต้าไธโอนปริมาณมาก มีผลต่อแร่ธาตุในขบวนการเมตาบอลิซึม และตัวมันเองสามารถกลายเป็นอนุมูลอิสระ มาทำร้ายร่างกายได้

7. ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดในเรื่อง กลูต้าไธโอนนั้น เท่าที่ทราบมีการขายเกลื่อนตามเว็บไซต์ ราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงเป็นหมื่นบาทและมีการแนะนำวิธีฉีด และอวดอ้างสรรพคุณ จนทำให้คนที่อยากขาวเกิดความสนใจ และซื้อหาไปทดลองทั้งฉีดกันเองซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้ การติดเชื้อ และปัญหาอื่น ๆ อีกมากมาย


หน้าที่หลักของกลูต้าไธโอนมีอยู่ 3 ประการ คือ.....


หน้าที่หลักของกลูต้าไธโอนมีอยู่ 3 ประการ คือ.....


 

1. Detoxification : กลูต้าไธโอนช่วยสร้างเอ็นไซม์ชนิดต่าง ๆ ในร่างกายโดยเฉพาะ Glutathion-S-transferase ที่ช่วยในการกำจัดพิษออกจากร่างกายโดยไปเปลี่ยนสารพิษชนิดไม่ละลายในน้ำ (ละลายในน้ำมัน) เช่น พวกโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง แม้แต่ยาบางชนิด ให้เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีขึ้นและง่ายต่อการกำจัดออกจากร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันตับ จากการถูกทำลายโดย แอลกอฮอล์ (สุรา) สารพิษจากบุหรี่ ยาพาราเซตามอลเกินขนาด (Overdose) ฯลฯ

2. Antioxidant : กลูตาไธโอนมีคุณสมบัติเป็นสารต้านปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชั่น (Antioxidant) ที่มีความสำคัญตัวหนึ่งในร่างกาย และหากขาดไป วิตามินซีและอี อาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่

3. Immune Enhancer : ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกาย2 โดยกระตุ้นการทำงานของเอ็นไซม์หลายชนิดเพื่อให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอม รวมถึงเชื้อแบคทีเรียและไวรัส นอกจากนี้กลูต้าไธโอน ยังช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA สร้างโปรตีนและ protaglandin

ข้อบ่งใช้ในทางการแพทย์ สารนี้บางประเทศขึ้นทะเบียนเป็นยา และบางประเทศใช้เป็นอาหารเสริม แต่ในประเทศไทยสารนี้ยังไม่ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีรายงานการใช้สารกลูต้าไธโอนในหลายกรณี เช่น โรคทางระบบประสาท เช่น พาร์กินสัน โดยใช้ฉีดเข้าทางเส้นเลือดดำ ใช้รักษาภาวะการเป็นพิษจากโลหะหนัก พิษจากยาพาราเซ็ทตามอล ทำลายพิษในตับ ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานในคนไข้ AIDS, มะเร็ง และใช้ต้านความชรา แต่ ข้อมูลที่ใช้รักษาฝ้า และทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งเหมือนมีแสงออร่า นั้นยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ยืนยัน พบว่าเป็นผลข้างเคียงจากการใช้สารนี้ที่ใช้รักษาโรคอื่นแล้วผิวขาวขึ้น จึงมีการนำมาใช้ทำให้ผิวขาวขึ้น


                                                       

มารู้จักกลูต้าไธโอน(Glutathione)กันดีกว่า


    Gluta Cinderella White  กลูต้าซินเดอเรลล่าไวท์

      กลูต้าไธโอน    (อังกฤษ: glutathione) เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับระบบประสาท ระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ปกติแพทย์จะใช้ในปริมาณเพียง 200 มิลลิกรัมต่อครั้ง มีกลุ่มคลินิกเสริมความงาม เป็นสารอ้างว่าใช้ผสมกับวิตามินซี ฉีดทำดีท็อกซ์ผิวขาว

กลูต้าไธโอน เป็น tripeptides ของกรดอะมิโน 3 ตัว คือ ซิสทีน (cysteine), กรดกลูตามิค (glutamic acid) และไกลซีน (glycine) ซึ่งร่างกายสามารถผลิตได้เองตามธรรมชาติ และมีในอาหาร เช่น นม ไข่ ผลอะโวคาโด สตรอเบอร์รี มะเขือเทศ ผักบรอคโคลี ส้มเกรปฟรุต และผักโขม

กลูต้าไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระจึงช่วยชะลอความเสื่อมของร่างกาย ช่วยให้ตับขจัดสารพิษออกจากร่างกาย และยังนำมารักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ ข้ออักเสบ โรคพาร์กินสัน โรคตับ โรคไต โรคเอดส์ ภาวะเป็นหมันในเพศชาย และภาวะหูตึงจากเสียงดัง ผลข้างเคียงทำให้ผิวขาว